ทุกครั้งที่ชมภาพยนตร์แนวสงครามไซไฟหรือแอ็กชันไซไฟ หนึ่งในเทคโนโลยีที่เราพบเห็นอยู่บ่อยครั้งคือ “อาวุธเลเซอร์” อาวุธพลังทำลายล้างสูงที่เพียงยิงลำแสงออกไปก็สามารถปลิดชีวิตศัตรูหรือผ่าเหล็กหนาออกเป็นสองท่อนได้อย่างง่ายดาย หรือหากใครเป็นแฟนคลับภาพยนตร์ “สตาร์วอร์ส” ก็คงจะใฝ่ฝันถึงการครอบครอง “ไลต์เซเบอร์” ดาบแสงสุดหวือหวาที่ทำให้ฉากบู๊สนุกและสวยงามไปในเวลาเดียวกัน
จีนเริ่มเดินเครื่อง “เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เจน 4” เครื่องแรกของโลก
เริ่มเดินเครื่องทดลอง! ปฏิกรณ์นิวเคลียร์ฟิวชันใหญ่ที่สุดในโลก
“อามาเทราสุ” อนุภาคปริศนาตกลงมายังโลกจากพื้นที่ว่างเปล่าในอวกาศ
ที่ผ่านมา เทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบันยังก้าวไปไม่ถึงจุดที่จะสามารถสร้างอาวุธที่กล่าวถึงข้างต้นได้ เพราะเลเซอร์ที่สร้างได้อ่อนเอเกินกว่าที่จะเป็นอาวุธ
แม้กองทัพของบางประเทศ จะติดตั้งอาวุธเลเซอร์แล้ว แต่อาวุธเหล่านี้ยังอ่อนแอกว่าที่เห็นบนจอเงินมาก และทำได้เพียงรบกวนเป้าหมายทางอากาศขนาดเล็กเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีรายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ค้นพบวิธีทำให้เลเซอร์มีพลังมากขึ้นถึง 9 เท่าแล้ว ซึ่งอาจนำไปสู่การทำให้ความฝันเรื่องอาวุธเลเซอร์กลายเป็นจริง
แสงในอาวุธเลเซอร์ปัจจุบันมีลักษณะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เกิดจากใยแก้วนำแสงชนิด Single-Mode ซึ่งส่งความยาวคลื่นแสงเดียวผ่านแกนกลางของเส้นใย และสร้างลำแสงโฟกัส แต่การเพิ่มกำลังทำได้ยากเพราะแสงถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่เล็ก ๆ
ส่วนใยแก้วนำแสงชนิด Multi-Mode ซึ่งส่งคลื่นแสงได้หลากหลาย ก็มีความกว้างกว่ามากและสามารถเพิ่มพลังของแสงอินฟราเรดที่ปล่อยออกมาระหว่าง 3-9 เท่า แต่ลำแสงที่ได้จะมีลักษณะยุ่งเหยิงและไม่โฟกัส เนื่องจากการกระเจิง นั่นหมายความว่าพลังของพวกมันจะกระจายไปอย่างรวดเร็วในระยะทางไกล ๆ
ในงานวิจัยใหม่ที่ได้รับทุนจากกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งตีพิมพ์เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนในวารสาร Nature Communications นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบวิธีแก้ปัญหาจำกัดการกระจายแสงจากเส้นใยมัลติโหมด ซึ่งตามทฤษฎีแล้ว หมายความว่ากองทัพสามารถออกแบบเลเซอร์ที่มีกำลังสูงพอที่จะสร้างความเสียหายอย่างมากและสามารถโฟกัสได้มากพอที่จะสร้างลำแสงที่แคบและเรียบได้
สตีเฟน วอร์เรน-สมิธ และหลิ่น เหวียน นักวิจัยจากสถาบันอุตสาหกรรมอนาคต มหาวิทยาลัยเซาท์ออสเตรเลีย ผู้นำทีมวิจัย กล่าวว่า “ลำแสงเลเซอร์คุณภาพต่ำจะเคลื่อนตัวออกอย่างรวดเร็วในขณะที่แพร่กระจาย ดังนั้นจึงไม่สามารถส่งพลังงานที่มีความเข้มข้นไปยังเป้าหมายได้”
พวกเขาเสริมว่า “เรามีวิธีในการควบคุมคุณสมบัติของแสงในเส้นใยดังกล่าวเพื่อให้กลายเป็นจุดโฟกัสที่สามารถกลายเป็นลำแสงคุณภาพสูงที่มีลักษณะแคบ ๆ ได้”
ทีมงานที่อยู่เบื้องหลังการศึกษาวิจัยใหม่นี้ยังไม่ได้พัฒนาต้นแบบสำหรับอาวุธดังกล่าว แต่เลเซอร์ใด ๆ ที่สร้างขึ้นโดยใช้พิมพ์เขียวของพวกเขาอาจมีพลังมากพอที่จะสร้างความสับสนให้กับระบบนำทางของศัตรู หรือสร้างความเสียหายจากความร้อนอย่างมากต่อยานพาหนะหรือเครื่องจักร
เทคโนโลยีในปัจจุบันสามารถโจมตีเป้าหมายขนาดเล็กในอากาศได้ในระยะใกล้ แต่เทคโนโลยีใหม่นี้สามารถใช้กับเป้าหมายได้หลากหลายมากขึ้น
“ลำแสงเลเซอร์จะมุ่งเป้าไปที่เป้าหมายระยะไกล เพียง 2-3 วินาทีจะทำให้เป้าหมายละลายหรือไหม้ ซึ่งมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับเป้าหมายขนาดเล็ก เช่น โดรนและปืนครก ส่วนเป้าหมายขนาดใหญ่อาจได้รับความเสียหายในส่วนที่เป็นเซ็นเซอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” นักวิจัยระบุ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่าเทคโนโลยีนี้จะสามารถนำมาใช้สร้างอาวุธมหาประลัยได้ในเร็ว ๆ นี้ แต่มีแนวโน้มว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำมาใช้เพื่อจัดการโดรน เพราะเดิมทีมักต้องใช้กระสุนเพื่อกำจัดโดรน ซึ่งสิ้นเปลืองกระสุนและงบประมาณมาก แต่อาวุธเลเซอร์นั้นเหมือนปืนที่มีลูกกระสุนเกือบไม่จำกัดที่ใช้ไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานเดียว ทำให้อาจมีความคุ้มค่าในการนำมาใช้จัดการกับโดรน
นอกเหนือจากการใช้เพื่อเป็นอาวุธแล้ว นักวิจัยคิดว่า ลำแสงเลเซอร์อันทรงพลังดังกล่าวสามารถนำไปใช้ในการสำรวจระยะไกลได้ ตัวอย่างเช่น เลเซอร์กำลังสูงสามารถกำหนดความเร็วลมได้ในระยะไกลกว่าวิธีการทั่วไป
นอกจากนี้ เลเซอร์กำลังสูงยังมีบทบาทสำคัญในการวิจัยการตรวจจับคลื่นความโน้มถ่วง และพวกเขาหวังว่าการค้นพบนี้จะมีบทบาทในการวิจัยในอนาคต
เรียบเรียงจาก Live Science
ภาพจาก ROBYN BECK / AFP
ป.ป.ช. แจงยิบ ยืนยัน“ครูชัยยศ” ถูกปลดเพราะมีมูลความผิดอย่างร้ายแรง
ยูเนสโกประกาศแล้ว! "สงกรานต์" เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ คำพูดจาก เป๋าเงินจริงสำ
คกก.ซอฟต์พาวเวอร์ เคาะงบฯ 5,164 ล้าน ดัน 11 ด้านซอฟต์พาวเวอร์ไทย